
ไขข้อสงสัย สายมู คืออะไร
คำว่า สายมู เป็นหนึ่งในคำฮิตติดปากของคนไทย โดยเฉพาะวัยรุ่น วัยทำงาน ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีความเชื่อในการขอพรไหว้พระ บูชาเครื่องรางของขลัง และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิตในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าที่การงาน การเงิน สุขภาพ และ ความรัก ทำให้ใครก็ตามที่ชอบดูดวง เชื่อเรื่องโชคลาง เดินสายทำบุญ สวมใส่เครื่องประดับ หรือ เครื่องรางของขลัง ที่มีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ถูกเรียกรวม ๆ ว่า สายมู โดยคำว่า มู นั้น ย่อมาจากคำว่า มูเตลู
ที่มาของคำว่า มูเตลู
หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า มูเตลู คืออะไร ทำไมเวลาใครไปบูชา ขอพรอะไร มักถูกเรียกว่าไปมูเตลูอยู่เสมอ แม้แต่ชื่อเครื่องรางของขลังต่าง ๆ ก็ยังมีคำว่า “มูเตลู” ต่อท้าย นั่นเป็นเพราะคำว่ามูเตลู เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์และความเชื่อ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่คำที่ใช้ท่องสวดมนต์ หรือ เวทมนตร์คาถา อะไร แต่เป็นคำที่มีที่มา จากภาพยนตร์อินโดนีเซีย เรื่อง มูเตลู ศึกไสยศาสตร์ (Penangkal Ilmu Teluh) ที่ออกฉายในปี 1979
เนื้อหาภาพยนตร์ เกี่ยวกับหญิงสาว 2 คน ที่ใช้มนต์ดำต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงชายหนุ่มที่ตนหลงรัก และในภาพยนต์นั้น ได้มีการท่องคาถาเริ่มต้นด้วยคำว่า มูเตลู ทุกครั้ง ทำให้เป็นคำที่มีความหมาย สื่อถึงเวทมนตร์คาถา ไสยศาสตร์ และ มนต์ดำ ต่อมา เมื่อมีคนไทยนำมาตั้งชื่อต่อท้ายเครื่องรางของขลัง และ ดาราเซเลบริตี้นิยมซื้อมาสวมใส่ ก็ได้ทำให้คำ ๆ นี้ กลายเป็นคำจำกัดความของกลุ่มคนที่เชื่อในเรื่องโชคลางของขลัง อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ตลอดจนเป็นคำกริยาและคำวิเศษณ์ ที่ใช้ขยายความ การเคารพบูชา กราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ อีกด้วย
ทำไมคนไทยชอบ มูเตลู ?
คนไทยชอบมูเตลู ตั้งแต่โบราณ ก่อนที่จะนับถือศาสนาพุทธ เพราะต้องพึ่งพิงธรรมชาติในการดำรงชีวิต แต่ไม่มีความรู้ความเข้าใจ จึงได้ยกให้เป็นเทพเทวดา หรือ ผีต่าง ๆ แล้วทำการกราบไหว้บูชา เพื่อให้ฟ้าฝน และ ดินอุดมสมบูรณ์ พืชผลเจริญงอกงาม ก่อเกิดเป็นความเชื่อและพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพลังเหนือธรรมชาติ หรือ “ผี” เราจึงมักจะเห็นว่า มีประเพณีการกราบไว้บูชา ผีฟ้า ผีเมือง พระแม่ธรณี พระแม่คงคา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงความเชื่อในเรื่องอำนาจเหนือธรรมชาติ หรือ ผี ที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมไทย
ต่อมาเมื่อได้รับอิทธิพลทางศาสนาพราหมณ์และพุทธจากอินเดีย จึงเกิดการผสมผสานความเชื่อ รวมเอาผี พราหมณ์ พุทธ เข้าด้วยกัน จนกลายเป็น ศาสนาไทย ที่แม้คนจะสวดมนต์ไหว้พระพุทธรูป แต่ก็ยังตั้งศาลพระภูมิอยู่ที่บ้าน เชื่อในโชคลาง พกเครื่องรางของขลังติดตัว และ ดูดวงเสริมดวงชะตา ด้วยเช่นกัน โดยไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป ก็ได้ทำให้การกราบไหว้บูชา เพื่อคาดหวังการดำรงชีวิตให้รอด กลายเป็นการขอพร เพื่อให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงิน สุขภาพ ความรัก ความสัมพันธ์ กันมากขึ้น จนกลายเป็นสาเหตุที่ว่า ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย คนไทยก็ยังคงเป็น สายมู อยู่ไม่เสื่อมคลาย
อยากเป็น สายมู เริ่มต้นอย่างไร
เพราะหลายคนสู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับ หากใครอยากเปลี่ยนจาก สายหมูทะ เป็น สายมู แล้วละก็ ลองเริ่มต้นจากอะไรที่ทำได้ง่าย ๆ และ ฟรี เช่น เข้าวัดทำบุญ สวดมนตร์ไหว้พระ จากนั้น ก็อาจค่อย ๆ ขยับเปลี่ยนวอลเปเปอร์โทรศัพท์ เป็นรูปมงคล แล้วไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ แก้กรรม หรือ ดูดวง เพื่อลองดูทิศทางของชีวิตในอนาคตก็ได้
แต่ถ้าใครมีกำลังทรัพย์หน่อย ก็อาจซื้อเครื่องรางของขลังติดตัวเลย เช่น กำไลข้อมือ แหวน สร้อยคอ หรือ ตะกรุด โดยตอนนี้ก็มีขายกันหลายแบบหลายสไตล์ ที่สามารถใส่เป็นเครื่องประดับแบบแฟชั่น ดูเก๋ ดูคูล ทันยุคทันสมัย หรือ ถ้าหากใครอยากเห็นผลทันตา อาจจะไปบนบานศาลกล่าวกับเทพ ที่โดดเด่นในเรื่องเฉพาะทางโดยตรงเลยก็ได้ เช่น เทพไฉ่ซินเอี๋ย เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย หรือ ท้าวเวสสุวรรณ เพื่อเพิ่มโชคด้านการงาน และ การเงิน เพราะไม่แน่ว่าอาจจะได้ผลลัพธ์เร็วทันใจ ยิ่งกว่า Wifi 5G ก็ได้ แต่ถ้าไปบนอะไรแล้ว ก็อย่าลืมไปแก้บนกันล่ะ เพราะในความโชคดี ก็อาจจะกลายเป็นความซวยได้ไม่รู้ตัว
รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ สายมู และ มูเตลู กันไปแล้ว คงจะได้รับรู้และเข้าใจถึงความเชื่อของคนกลุ่มนี้กันมากขึ้น ซึ่งถ้าหากใครอยากเริ่มต้นเป็นสายมู เพื่อเสริมดวงชะตา ในช่วงที่อะไร ๆ ไม่เป็นใจแล้วละ ก็ ลองไปทำตามวิธีที่เราแนะนำกันได้ ไม่แน่ว่า คุณอาจจะกลายเป็นสายมูตัวยง ที่ดวงดีขึ้นจนฉุดไม่อยู่ก็ได้