สังฆทาน ถวายช่วงไหนได้บ้าง

การถวาย สังฆทาน สามารถทำได้ทุก ๆ วัน เพราะพระสงฆ์ต้องฉันเพล อุปโภคบริโภคสิ่งของเครื่องใช้ ไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป พุทธศาสนิกชนจึงสามารถถวายสังฆทานแก่พระสงฆ์ได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นวันพระใหญ่ หรือ ช่วงที่พระสงฆ์จำพรรษา เช่น วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา ฯลฯ อย่างที่หลายคนเคยเข้าใจ เพราะนอกจากจะทำให้พระสงฆ์ขาดเหลือปัจจัยต่าง ๆ ในวันปกติแล้ว การถวายสังฆทาน เฉพาะวันพระใหญ่จำนวนมาก ยังส่งผลให้พระสงฆ์ใช้สิ่งของที่มีคนมาถวายไม่ทัน จนสังฆทานเหล่านั้นหมดอายุ หรือ เสื่อมสภาพได้

ทั้งนี้ ชุดสังฆทาน ไม่จำเป็นต้องเป็น ข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของอุปโภคบริโภค ที่จัดอยู่ในถังสังฆทานสีเหลืองเท่านั้น แต่อาจเป็นสิ่งของอื่น ๆ ที่ตรงกับความต้องการของวัด หรือ พระที่จำพรรษาอยู่ เพื่อนำไปพัฒนาพื้นที่วัดให้มีความสวยงาม หรือ นำสิ่งของเหล่านั้น ไปใช้ในโครงการทำประโยชน์เพื่อสังคม เช่น ต้นไม้ พรรณไม้ ปุ๋ย มูลไส้เดือน หนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น

ทำบุญถวาย สังฆทาน แล้วได้อะไร

ทำบุญถวาย สังฆทาน แล้วได้อะไร? สังฆทาน แปลตรงตัวว่า การให้ทานแด่พระสงฆ์ แรกเริ่มเดิมที มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล จากเหตุการณ์ที่พระนางปชาบดีโคตรมี มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงทรงทอจีวรถวายแด่พระพุทธเจ้า แต่พระองค์ไม่รับ ตรัสให้ถวายแด่เหล่าพระสงฆ์แทน เพราะทรงเห็นว่า การถวายแก่พระสงฆ์ นอกจากจะเป็นการถวายแด่พระสงฆ์ส่วนรวม โดยไม่เลือกปฏิบัติ ยังเป็นการช่วยดำรงพระพุทธศาสนาให้ยังคงอยู่สืบไป การถวายสังฆทานจึงมีอานิสงส์มาก ถึงขนาดที่ พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ใน ทักขิณาวิภังคสูตร ว่า การถวายสังฆทานแก่คณะพระสงฆ์ มีอานิสงส์มากกว่า การถวายทานเฉพาะเจาะจงแด่พระพุทธเจ้า แม้ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่

จัด สังฆทาน เองยังไงให้ได้บุญ

เพราะปัจจุบัน ร้านค้า หรือ ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ มักมีชุดสังฆทานสำเร็จรูป ให้เราได้เลือกซื้อ สำหรับนำไปถวายได้ทันที ซึ่งบางชุด ก็มีการผลิตซ้ำจำนวนมาก จนอาจทำให้พระสงฆ์ได้รับของบางอย่างซ้ำ ๆ กัน จนเกินความจำเป็น เก็บไว้ก็เน่าเสีย อีกทั้งบางส่วน ก็อาจตกค้างเป็นเวลานาน จนทำให้ข้าวสารอาหารแห้ง สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ หมดอายุได้ หากพระสงฆ์ฉันเข้าไป ก็อาจเกิดอาการท้องเสีย หรือ อาพาธ แทนที่จะถวายสังฆทาน เพื่อทำบุญ กลับกลายเป็นการสร้างบาปแทน

หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง จึงควรจัด สังฆทาน ถวายเอง เพื่อให้มั่นใจว่า ของเหล่านั้น เป็นสิ่งของที่ตรงกับความต้องการของวัด หรือ พระสงฆ์ที่จำวัดอยู่จริง ๆ เพราะบางวัดอาจไม่ได้ต้องการอาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับพระสงฆ์ แต่อาจต้องการสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อพัฒนาวัด หรือ ใช้ในโครงการทำประโยชน์เพื่อสังคม เช่น ปลูกต้นไม้เพื่อความร่มรื่น หนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ สำหรับให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสเรียนหนังสือ หรือ อาหารแห้งต่าง ๆ สำหรับบริจาคให้คนยากคนจน ฯลฯ ก่อนถวายสังฆทานตามวัดใกล้บ้าน จึงควรไปพิจารณาดูให้ดีก่อน เพื่อให้การถวายสังฆทานเกิดประโยชน์สูงสุด

หรือถ้าหากใครอยากจะถวายเป็นอาหาร ก็ไม่ควรจะทำให้มีรสชาติจัดจ้าน หรือ หวานเกินไป เพราะอาจทำให้พระสงฆ์ฉันไม่ได้ และ ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน สำหรับใครที่ไม่มีเวลาจัดชุดสังฆทานเอง อยากจะถวายสังฆทานสำเร็จรูป ก็สามารถทำได้ แต่มีข้อควรระวังคือ ก่อนซื้อชุดสังฆทาน ให้ดูฉลากสินค้าแต่ละชนิดที่อยู่ด้านใน ว่าหมดอายุวันเมื่อไหร่ เพื่อหลีกเลี่ยงซื้อสินค้าหมดอายุ และ ทำให้ได้ชุดสังฆทานที่มีแต่สินค้ามีคุณภาพ

8 ของใช้ที่ควรถวายแก่พระสงฆ์

1. น้ำดื่ม

ใคร ๆ ก็ต้องดื่มน้ำ เช่นเดียวกับ พระสงฆ์ จึงควรจัดเตรียมถวายเป็น ชุดสังฆทาน เป็นอย่างแรก โดยควรเป็นน้ำดื่มที่มีการันตีเรื่องความสะอาด ไม่มีกลิ่นคลอรีนแฝง

2. ข้าวสาร อาหารแห้ง

เพราะบางสถานการณ์อยู่ในช่วงฝนตกน้ำท่วม บิณฑบาตไม่ได้ หากมีข้าวสาร อาหารแห้งติดวัดไว้ ก็จะสามารถนำมาประกอบอาหาร ให้พระฉันเพลไปก่อนได้ โดย อาหารแห้ง เช่น น้ำปลา กะปิ ฯลฯ

3. ยาสามัญประจำบ้าน

วัดบางที่อยู่ในชนบท ห่างไกลจากโรงพยาบาล หรือ สถานีอนามัย จึงควรถวายยาสามัญประจำบ้าน เพื่อให้เมื่อพระอาพาธ จะได้นำมากิน แก้อาการเจ็บป่วย โดยยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาพาราเซตามอล ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดท้อง ฯลฯ

4. ของใช้ส่วนตัวพระสงฆ์

พระสงฆ์ก็เหมือนคนปกติทั่วไป ที่จะต้องมีของใช้ส่วนตัว เพื่อทำความสะอาดร่างกาย เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ ฯลฯ โดยหากถวาย สบู่ ไม่ควรมีกลิ่นหอมจนเกินไป ควรถวายแบบระงับกลิ่นกายก็พอ

5. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

อยู่วัด พระก็ต้องใช้ชามจาน ใช้ห้องน้ำที่มีความสะอาด จึงควรถวายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเป็น สังฆทาน ด้วย ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ ไม้ม็อบถูพื้น เป็นต้น

6. หนังสืออุปกรณ์การเรียน

บางวัดอาจมีการบวชเณร เข้ามาเรียนในช่วงฤดูร้อน ทำให้อาจขาดแคลนหนังสืออุปกรณ์การเรียน หากใครอยู่ใกล้วัดที่มีเด็กบวชเณรเยอะ ๆ ก็อาจซื้อถวายเป็นสังฆทาน ให้กับวัดได้

7. โคมไฟ – หลอดไฟ

โคมไฟ – หลอดไฟ จำเป็นมากกว่า เทียนพรรษา เพราะใช้ได้นานต่อเนื่อง และ ทนทานมากกว่า ผิดกับเทียนที่นอกจากจะหมดเร็วแล้ว ยังเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้ง่ายกว่าอีกด้วย

8. เงินบริจาค

หากถวาย เงินบริจาค จะทำให้วัดสามารถนำไปใช้พัฒนาด้านต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นโรงครัว สำหรับทำอาหารเลี้ยงเณร เลี้ยงพระ คนยากคนจน ตลอดจนห้องน้ำ สภาพแวดล้อมต่าง ๆ หากใครไม่สะดวกซื้อของถวายเป็นสังฆทาน สามารถถวายเป็นเงินบริจาคแทนก็ได้ พระสงฆ์ได้ใช้แน่นอน