
ลอยอังคาร คืออะไร
ลอยอังคาร เป็นพิธีกรรมสุดท้ายในงานศพ ซึ่งจะนำเถ้าอัฐิของผู้ล่วงลับมาห่อด้วยผ้าขาว แล้วให้ลูกหลานโปรยลงสู่แม่น้ำหรือทะเล ช่วงที่มีร่องน้ำลึก ด้วยเชื่อกันว่า สายน้ำจะช่วยส่งดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับไปสู่ภพภูมิที่ดีได้ โดยพิธีลอยอังคารนั้น จัดขึ้นหรือไม่จัดก็ได้ แล้วแต่ความประสงค์ของผู้ตาย หรือ ครอบครัวและญาติพี่น้อง ว่าจะให้จัดการอย่างไร
ทำไมถึงเรียกว่า ลอยอังคาร
ทำไมถึงเรียกพิธีโปรยขี้เถ้านี้ ว่า ลอยอังคาร ? นั่นก็เป็นเพราะคำว่า อังคาร มีรากศัพท์มาจาก อังคาระ ในภาษาบาลีสันสกฤต แปลว่า สิ่งที่ถึงความเสื่อมสภาพ ซี่งได้แก่ ถ่าน ถ่านไม้ ถ่านเผาไฟที่กำลังลุกไหม้ เมื่อถูกนำมาใช้จุดไฟ เพื่อเผาศพของผู้ตายจนเกิดเป็นเถ้าถ่าน จึงทำให้มีการเรียกเถ้าถ่านที่เกิดจากการเผาไหม้ศพว่า อังคาร รวมกับขั้นตอนนำไปโปรยลงในแม่น้ำหรือทะเล จนเถ้านั้นลอยอยู่เหนือผิวน้ำ จึงทำให้มีการเรียกรวมกันว่า ลอยอังคาร
โดยคำว่า อังคาร นั้น คนอินเดียยังนำมาเป็นชื่อเรียกดาวเคราะห์ว่า ดาวอังคาร ด้วย เนื่องจากเมื่อมองในเวลากลางคืนแล้ว จะมีสีแดงคล้ายเถ้าถ่านที่กำลังลุกไหม้ และยังเป็นที่มาของการเรียกเทพเจ้าประจำดาวอังคารคือ พระอังคาร และชื่อเรียกวันที่ 3 ของสัปดาห์ คือ วันอังคาร ด้วยนั่นเอง
ความสำคัญของการลอยอังคาร
การลอยอังคาร มีความสำคัญในพิธีศพของคนอินเดียโบราณ เนื่องจากเชื่อกันว่า แม่น้ำคงคาเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถช่วยชำระบาปของผู้ตายได้และส่งวิญญาณไปสู่ภพภูมิที่ดี ทำให้คนที่นับถือศาสนาพราหมณ์ หลังจากเผาศพของผู้ตายที่ริมแม่น้ำเสร็จแล้ว ก็มักจะนำกระดูกและเถ้าถ่านลอยไปกับสายน้ำด้วย
เมื่อคนไทยได้รับอิทธิพลและวัฒนธรรมจากอินเดีย ด้วยหลักคำสอนของศาสนาพุทธ ที่ทำให้เห็นถึงความไม่เที่ยงของสังขาร ซึ่งคล้ายคลึงกับการเห็นร่างกายเป็นสิ่งไม่จีรังของศาสนาพราหมณ์ รวมถึงมีความเชื่อว่าร่างกายของมนุษย์นั้น เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของธาตุทั้งสี่ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อร่างกายแตกดับ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็ควรกลับไปสู่สภาพเดิมตามธรรมชาติด้วย จึงทำให้การลอยอังคาร มีความสำคัญในทางศาสนาพุทธ ในฐานะการปล่อยวาง ไม่ยึดติด ให้ร่างกายและวิญญาณของผู้ตาย ได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีด้วยเช่นกัน
แต่จะมีความแตกต่างกัน ตรงที่คนไทยไม่ได้ลอยอังคารกันทุกคน บางคนก็เลือกที่จะเก็บกระดูกหรืออัฐิของผู้ตายไว้ในโกศ เพื่อเก็บเอาไว้เคารพบูชา แต่ถ้าผู้ตายหรือครอบครัวและญาติพี่น้อง มีความประสงค์ที่จะโปรยเถ้าถ่านให้ลอยลงสู่แม่น้ำหรือทะเล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติแล้วละก็ ถึงจะจัดให้มีพิธีลอยอังคาร หลังจากงานฌาปนกิจเสร็จสิ้นลง
ขั้นตอนในการเตรียมตัวลอยอังคาร
เนื่องจากพื้นที่ที่เหมาะกับการลอยอังคาร คือ ในแม่น้ำหรือทะเลช่วงที่มีร่องน้ำลึก ทำให้ครอบครัวหรือญาติพี่น้องของผู้ล่วงลับ จะต้องออกเรือเพื่อไปยังบริเวณดังกล่าว จึงควรรู้ขั้นตอน เพื่อให้สามารถทำพิธีลอยอังคารได้อย่างเหมาะสม
1. บูชาแม่ย่านางเรือ
คณะญาติมิตรของผู้ล่วงลับนำอังคาร (เถ้าถ่านของศพที่เผาแล้ว) ไปสู่ท่าเทียบเรือ จากนั้น พิธีกรนำประธานในพิธี หรือ ญาติอาวุโสลงเรือก่อน ส่วนคนอื่น ๆ ให้รอบนท่าเทียบเรือ
เมื่อประธานในพิธีลงเรือแล้ว จึงนำดอกไม้สดและธูปเทียนที่ใส่รวมไว้ในพานจุดบูชาแม่ย่านางที่หัวเรือ เพื่อกล่าวบูชาและขออนุญาตแม่ย่านางเรือ โดยประธานกล่าวเองหรือพิธีกรกล่าวนำ เมื่อทำพิธีบูชาแม่ย่านางเรือเสร็จแล้ว คณะญาติมิตรของผู้ล่วงลับจึงนำอังคารลงเรือและออกเรือไปยังจุดที่จะลอยอังคาร
2. ไหว้อังคารบนเรือก่อนทำพิธีลอยน้ำ
เมื่อเรือแล่นมาถึงจุดที่จะทำพิธีลอยอังคารแล้ว ให้หยุดเรือลอยลำ จากนั้น พิธีกรจึงเปิดลุ้ง/ภาชนะดินปั้นที่ใส่อังคารเพื่อจัดเครื่องไหว้ พอจัดเครื่องไหว้เสร็จแล้ว ให้ประธานในพิธีจุดธูปเทียนไหว้อังคารและสรงด้วยน้ำอบไทย โรยดอกมะลิ กลีบกุหลาบ และดอกไม้อื่น ๆ
เมื่อทุกคนไหว้อังคารเสร็จแล้ว พิธีกรจึงห่อลุ้งอังคารด้วยผ้าขาวที่มีขนาดความยาวและกว้างประมาณครึ่งเมตร แล้วรวบด้วยสายสิญจน์ทำเป็นจุกข้างบนและสอดพวงมาลัยเข้าไป และแจกดอกกุหลาบให้กับคณะญาติมิตรคนละ 1 ดอก
3. บูชาเจ้าแม่นที-ท้าวสีทันดร
พิธีกรจัดเครื่องบูชาเจ้าแม่นที-ท้าวสีทันดรให้แก่ประธาน จากนั้น ประธานจึงจุดเทียน 1 เล่ม และธูป 7 ดอกที่กระทงดอกไม้ 7 สี แล้วจึงกล่าวบูชาและฝากอังคารกับเจ้าแม่นที-ท้าวสีทันดร
4. เริ่มพิธีลอยอังคาร
เมื่อประธานหรือพิธีกรกล่าวบูชา/กล่าวฝากอังคารกับเจ้าแม่นที-ท้าวสีทันดรเสร็จแล้ว พิธีกรจึงเชิญทุกคนยืนไว้อาลัยประมาณ 1 นาที จากนั้น ประธานจึงโยนเหรียญลงทะเล เพื่อซื้อที่ตามธรรมเนียม แล้วลงบันไดเรือทางกาบซ้าย เพื่อลอยกระทงดอกไม้เจ็ดสี โดยใช้มือประคองค่อย ๆ วางบนผิวน้ำ แล้วจึงอุ้มประคองลุ้งอังคารค่อย ๆ วางบนผิวน้ำ โดยให้ผู้ร่วมพิธีทุกคนถือสายสิญจน์ไปด้วย
แต่หากกาบเรืออยู่สูงจากผิวน้ำมากเกินไปและไม่มีบันไดลงเรือ ให้ใช้สายสิญจน์ทำเป็นสาแหรก 4 สาย โดยใส่กระทงดอกไม้เจ็ดสี 1 สาแหรก และใส่ห่อลุ้งอังคาร 1 สาแหรก ค่อยๆ หย่อนลงไปบนผิวน้ำ (ห้ามโยนลงไปเด็ดขาด) และเมื่อห่อลุ้งอังคารลงสู่ผิวน้ำแล้วให้โรยกลีบกุหลาบ ธูปเทียนตามลงไป รวมไปถึงสิ่งของที่เหลือจากการไหว้บูชา ทั้งหมดก็ให้โรยตามลงไปด้วย จากนั้น ก็ให้แล่นเรือวนซ้ายทั้งหมด 3 รอบ เป็นอันเสร็จพิธี