
ลักษณะแห่งความฝัน 4 แบบ
ก่อนจะรู้ว่า ฝันตอนเช้า เป็นจริง จริงหรือไม่ มาดูกันก่อนว่า ลักษณะแห่งความฝัน ในแต่ละช่วง ตอนที่เรายังนอนหลับนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร เพื่อให้เข้าใจถึงธรรมชาติของการเกิดความฝัน
1. ธาตุกำเริบ
18:00 – 20:00 น. หรือ 06:00 – 08:00 น. เกิดจากการรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย ไม่ว่าจะจากการกินอาหารผิดสำแดง หรือ เจ็บไข้ได้ป่วย ทำให้เราเกิดความฝัน และ ต่อมาก็เกิดขึ้นจริง ๆ เช่น ปวดท้อง ปวดฉี่ เป็นต้น
2. จิตอาวรณ์
20:00 – 23:00 น. หากเรามีความคิดจดจ่อ นึกถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลานาน ในช่วงห้วงสุดท้าย ก่อนนอนหลับสนิท เราจะเก็บเอาเรื่องนั้นไปฝันถึง ทำให้ส่วนใหญ่ มักฝันถึงเรื่องในอดีต เช่น ฝันถึงแฟนเก่า ฝันถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิต เป็นต้น
3. บุพพนิมิต
23:00 – 02:00 น. (หากนอนกลางวัน 11:00 – 14:00 น.) เป็นความฝันที่เกิดจากเราทำกรรมอะไรไว้ ก็จะไปฝันถึง หากเป็นกรรมดี ก็ฝันดี หากเป็นกรรมชั่ว ก็จะฝันร้าย
4. เทพนิมิต
02:00 – 05:00 น. ช่วงเวลานี้เราหลับสนิทแล้ว หากมีความฝันแสดงว่า เทวดาอาจมาเข้าฝันดลใจ ถ้าฝันดี ก็แสดงว่ามาให้โชคลาภ มาบอกเรื่องดี ๆ ในอนาคต แต่ถ้าฝันร้าย ก็อาจมาเป็นการแจ้งเหตุ ให้ระวังเภทภัย
ฝันเวลาไหนแม่นที่สุด
- ฝันตอนหัวค่ำ หรือ รุ่งเช้า
เนื่องจากเป็นปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อความผิดปกติของร่างกายอะไรบางอย่าง ทำให้ความฝันนี้ มีความแม่นยำอยู่ที่ 25%
- ฝันตอนกลางคืน
ถึงเราจะมีความฝันในช่วงนี้ แต่ก็เป็นความฝันที่เกิดขึ้น จากจิตใจของเราที่ยังคำนึงถึงเรื่องอื่น ๆ อยู่ ก่อนนอนหลับสนิท ทำให้ความฝันนี้ มีความแม่นยำอยู่ที่ 50%
- ฝันตอนกลางดึก
เพราะเป็นการฝันถึงกรรมเก่า ที่ได้เคยทำไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่ออนาคตข้างหน้า ทำให้ความฝันนี้ มีความแม่นยำอยู่ที่ 75% บางคนเชื่อกันว่า อาจเกิดขึ้นภายใน 1 – 3 เดือนข้างหน้า
- ฝันตอนเช้า
เชื่อกันว่า แม่นยำที่สุด 100 % เพราะเกิดจากเทวดาดลใจ ถ้าฝันถึงเรื่องอะไร จะเกิดขึ้นภายใน 3 – 15 วัน
ฝันตอนเช้า มักจะเป็นจริง จริงหรือ?
แม้หลายคนมีความเชื่อว่า ฝันตอนเช้า แม่นที่สุด ถึงขนาดที่ตัวเองฝันเห็นแฟนมีชู้ แล้วต่อมาก็จับได้ หรือ ฝันเห็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายยาย ที่เสียไปแล้ว มาให้เลข พอซื้อตามนั้นก็ถูกจริง ๆ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนอีกมาก ที่ฝันตอนเช้าแล้ว กลับพบว่าไม่เป็นจริง แต่อย่างใด
ดังนั้น ก็คงยากที่จะระบุได้แน่ชัดว่า จริงหรือไม่จริง ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล และ ควรใช้วิจารณญาน ก่อนที่จะหลงเชื่อไปเสียหมด ทางที่ดี อาจจะต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง ถึงจะรู้ได้ว่า ความฝันในตอนเช้าของคุณนั้น จะเป็นจริงได้ จริงหรือไม่
ความฝันของมนุษย์ เกิดขึ้นจากองค์ประกอบหลายอย่างทั้ง ความคิด ความทรงจำ อารมณ์ และ จินตนาการ ที่แม้แต่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่อาจสรุปได้แน่ชัด ดังนั้น หากคุณฝันตอนเช้า แล้วมีความเชื่อว่า อาจจะเป็นจริง ก็คงต้องรอ ให้เวลาเป็นตัวตัดสินว่า มันจะเป็นจริง จริงหรือไม่ เพราะถ้ารีบตีโพยตีพาย จนเป็นโทษต่อคนอื่น ทั้งที่เป็นตัวเราที่คิดไปเอง ความเสียหาย หรือ ความเสียใจทั้งหมด ก็จะตกอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้นนั่นเองบทความที่น่าสนใจ