คนไทยเชื่อเรื่อง นางกวัก ตั้งแต่เมื่อไหร่

คนไทยอาจเชื่อเรื่องนางกวัก มาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากมีตำนานเล่าขาน เกี่ยวกับนางกวักหลายยุคสมัย บ้างก็สมัยพุทธกาล หรือ สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีการขุดค้นทางโบราณคดี ที่ค้นพบ ประติมากรรมนางกวัก ในยุคนั้น ๆ ทำให้ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันได้ว่า คนไทยในสมัยนั้น บูชานางกวัก จริง ๆ ตามตำนานแต่อย่างใด

การบูชานางกวัก จึงอาจเพิ่งเกิดขึ้น ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่ 4 – 5 เท่านั้น เนื่องจากมีหลักฐานเป็นสมุดไทดำ ว่าด้วยการสร้างและบูชานางกวัก สอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจของไทยในขณะนั้น ที่มีการเปิดการค้าเสรี รวมถึงมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ อันเป็นเหตุผล ที่ทำให้คนไทยเปลี่ยนจากทำไร่ไถนามาทำมาค้าขายมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ คนไทย บูชานางกวัก ในฐานะสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทำไม นางกวัก ถึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ

เป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อ ๆ กันมาว่า ตั้งนางกวักไว้หน้าร้านแล้ว จะช่วยกวักโชค เรียกทรัพย์ เงินทองไหลมาเทมา ค้าขายเจริญรุ่งเรือง แต่เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไม นางกวัก ถึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ ทั้ง ๆ ที่เป็นรูปปั้นหญิงสาวใส่ชุดไทย ทำท่ากวักมือ แล้วนั่งพับเพียบเรียบร้อยเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะตำนานเกี่ยวกับนางกวักนั่นเอง ที่ทำให้เกิดความเชื่อ จนกลายเป็นเครื่องราง ที่พ่อค้าแม่ค้า จะขาดไปไม่ได้เลย

โดยตำนาน 2 เรื่อง คือ คาถานางกวัก และ โองการไหว้ครูช่าง กล่าวถึงนางกวักไว้ว่า เป็นลูกสาวของปู่เจ้าเขาเขียว (ผีตามความเชื่อของคนไทยในท้องถิ่น) สวดคาถา บูชาแล้ว จะช่วยให้ค้าขายร่ำรวย มีเงินเต็มกอง มีทองเต็มหาบ ได้เป็นเศรษฐีสมใจ ดังเนื้อความที่ปรากฏในคาถานางกวัก ความว่า

“โอม มหาสิทธิโชคอุดม โอมปู่เจ้าเขาเขียวมีลูกสาวคนเดียว ชื่อแม่นางกวัก ชายเห็นชายรัก หญิงเห็นหญิงรัก รู้จักทุกตำบล คนรักทุกถ้วนหน้า โอมพวกพานิชชา พากูไปค้าถึงเมืองแมน ค้าหัวแหวน ก็ได้แสนทะนาน กูค้าสารพัดการก็ได้กำไรคล่องๆ กูจะค้าเงินก็เต็มกอง กูจะค้าทองก็เต็มหาบ กลับมาเรือนสามเดือน เลื่อนเป็นเศรษฐี สามปีเป็นพ่อค้าสำเภา โอมปู่เจ้าเขาเขียว ประสิทธิแก่กูคนเดียว สวาหะ”

อีกหนึ่งตำนาน ที่ทำให้นางกวักมีพุทธคุณ เรื่องให้โชคลาภ บูชาแล้วค้าขายร่ำรวย คือ ตำนานนางกวักพบพระสาวก เล่าเรื่องนางกวัก ซึ่งเดิมชื่อ สุภาวดี มีนิสัยจิตใจดี ชอบทำมาค้าขาย วันหนึ่งมีโอกาสได้พบ พระมหากัสสปะ พระสีวลี ได้ทำบุญและฟังเทศน์ฟังธรรมจากพระสาวกทั้ง 2 จึงได้รับพร ให้ค้าขายร่ำรวย เจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์สินเงินทอง ส่งผลให้นางค้าขายได้กำไรตลอด ไม่มีขาดทุน เมื่อนางสิ้นชีวิต ชาวบ้านจึงปั้นรูปแม่นางสุภาวดีไว้บูชา จนกลายเป็นที่มาของการบูชานางกวัก อย่างไรก็ตาม ในพระไตรปิฎก พุทธประวัติ หรือ ชาดก ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด

ถึงแม้ตำนานทั้ง 3 เรื่อง จะเป็นแค่เรื่องเล่าขาน แต่จากการบอกเล่ากันปากต่อปาก ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น รวมกับความต้องการสิ่งยิ่งเหนี่ยวทางจิตใจ ของพ่อค้าแม่ค้า ในการทำมาหากิน ไม่ช้าไม่นาน ก็ทำให้คนไทยมีความเคารพนับถือนางกวัก  ในฐานะเครื่องรางแห่งโชคลาภ จนไม่ว่าจะเดินไปร้านค้าขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ หรือ ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เป็นต้องเห็นนางกวัก อยู่บนหิ้งบูชา พร้อมกับเครื่องเซ่นไหว้อยู่ทุกครั้งไป แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ และ ความศรัทธา ที่ผู้คนมีต่อนางกวัก อย่างไม่เสื่อมคลาย

หลักการในการเลือกซื้อนางกวักมาบูชา

หากใครรู้สึกศรัทธา อยากมี นางกวัก มาตั้งหน้าร้าน หรือ บริษัท เพื่อให้ค้าขายร่ำรวยขึ้น สามารถไปหาซื้อมาบูชากันได้ โดยการเลือกนางกวักมาบูชานั้น ควรเลือกซื้อนางกวัก ที่มือขวา ยกสูงเหนือปาก อยู่ที่ระดับคิ้วหรือตาเท่านั้น เพราะจะทำให้เหลือกินเหลือใช้ ไม่ขัดสน และ ถ้าหากมีถุงเงินถุงทองอยู่ฝั่งซ้ายมือ ก็จะยิ่งสงผลดีมากขึ้น เนื่องจากจะทำให้เก็บเงินทองอยู่ ไม่รั่วไหล

อีกทั้งมือที่ยกขึ้นมานั้น ควรมีลักษณะงองุ้ม อยู่ในท่าเหมือนกวักมือเรียกอยู่ เพื่อให้มีทรัพย์สินเงินทองเข้ามาไม่ขาดสาย ที่ข้อมือก็ควรมีกำไลข้อมือรัดอยู่ด้วย สื่อถึงการทำมาค้าขาย ให้มีแต่กำไร ไม่ขาดทุน หากใครอยากมีกำไรมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ก็ให้หาซื้อ กำไลเงิน กำไลทอง มาใส่แทน ก็จะยิ่งช่วยเสริมพุทธคุณ เสริมดวงชะตา ทำให้ค้าขายได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับการเลือกซื้อ นางกวัก ว่าควรเลือก นางกวัก อ้วน หรือ ผอม ดีกว่ากันนั้น สมัยก่อน อาจพบว่า คนไทยนิยมบูชา นางกวัก ที่มีรูปร่างผอมบางเท่านั้น แต่ปัจจุบัน ก็เริ่มมีความนิยมบูชา นางกวัก รูปร่างอ้วนท้วม กันมากขึ้น เนื่องจากสื่อถึง ความกินดีอยู่ดี ความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ก็สามารถเลือกมาบูชาได้ตามใจชอบ หรือ ตามรสนิยมได้เลย

บูชา “นางกวัก” ยังไงให้ค้าขายร่ำรวย

หากต้องการบูชา นางกวัก ให้ค้าขายร่ำรวย ควรถวายน้ำหวาน น้ำเปล่า ของหวาน ผลไม้ ดอกไม้ ธูปเทียน ให้ครบ เสร็จแล้ว จึงกล่าวคาถาบูชา โดยแต่ละอย่าง ควรถวายดังรายการต่อไปนี้

• น้ำหวาน

ถวายได้ทั้งน้ำแดง น้ำอัดลม สีเขียว ขาว ดำ ได้ตามชอบ

• น้ำเปล่า

ทุกวัน อย่าให้ขาด

• ของหวาน

ให้ถวาย ขนมโมทกะ แต่ถ้าหาไม่ได้ ให้ถวาย ขนมต้ม สีขาว สีแดง แทนได้

• ผลไม้

ถวาย สับปะรด ฟักทอง กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อน ฟักเขียว

• ดอกไม้

ดอกมะลิ ดอกกุหลาบ

• ธูป

จุดธูป 5 ดอก (ธูปแต่ละดอกสื่อถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูอาจารย์)

คาถาบูชานางกวัก

พอเตรียมทุกอย่างเสร็จสรรพ จึงกล่าวคาถาบูชานางกวัก ดังนี้

(นะโม 3 จบ)

โอมปู่เจ้าเขาเขียวมีลูก สาวคนเดียว ชื่อว่าแม่นางกวัก หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายรัก อยู่ทุกถ้วนหน้า

เอหิมามะมะ อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิมามะมะ

จะค้าขายก็ขอให้เป็นเศรษฐี หนึ่งปีให้เป็นพ่อค้าสำเภาทอง จะค้าเงินขอให้เงิน เข้ามากองจะค้าทองขอให้ไหลมาเทมาเต็มบ้านเต็มเรือน จะค้าขายสิ่งหนึ่ง ประการใด
ขอให้ซื้อง่ายขายคล่อง ขอให้ซื้อง่ายขายดี ขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี

อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ เอหิมามะมะ นะมะอะอุ นะชาลีติ อิกะวิติ พุทธะสังมิ ทุสะมะนิ อิธะคะมะ จะพะกะสะ นาสังสิโม สุมะโมโล นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ นะเมตตา โมขายดี พุทธไม่ต่อ ธาซื้อดี ยะใจดี มิใจอ่อน รักพุทโธ ปฏิรูปัง สัมปะฏิจฉามิ เพี้ยง สิทธิโภคา สิทธิพะลา สิทธิจะมหาเดชา นะชาลีติ เอหิจงมา พุทธะสังมิ นิมามะมามา

มาช่วยกันค้า มาช่วยกันขาย กวักเอาเงินมา กวักเอาทองมา กวักเอาโชคลาภ แก้วแหวนเงินทองข้าวของ หน้าที่การงาน ผู้คน ชื่อเสียงเกียรติยศ ข้าทาสหญิงชายมา

มาด้วยนะโมพุทธายะ ปฏิรูปัง สัมปะฏิจฉามิ เพี้ยง พุทธังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี ธัมมังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี สังฆังขอให้เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี เตชะสุเนมะภูจะนาวิเวอิติ นะเยปะรังยุตเต

ขอจงนำเอาโชคลาภ แก้วแหวนเงินทองข้าวของ มาสู่ในสถานที่นี้ด้วย เทอญ

พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา
พุทธังคุ้ม ธัมมังคุ้ม สังฆังคุ้ม
เอหิพุทธานุภาเวนะ เอหิธัมมานุภาเวนะ เอหิสังฆานุภาเวนะ

บทความที่น่าสนใจ

• 9 คาถาเรียกทรัพย์ บันดาลเงินล้าน คิดเงินได้เงิน คิดทองได้ทอง
• 10 เครื่องรางของขลัง สายพุทธคุณ เสริมดวง โชคลาภ คุ้มครองปลอดภัย